ติดต่อลงโฆษณา racingweb@gmail.com

ผู้เขียน หัวข้อ: ปัจจัยที่มีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์  (อ่าน 39 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ButterBear

  • New Member
  • *
  • กระทู้: 37
    • ดูรายละเอียด
    • บ้านเดี่ยว
เบี้ยประกันรถยนต์ คือ ค่าใช้จ่ายที่เจ้าของรถยนต์ต้องชำระให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อแลกกับการคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณเลือก

ปัจจัยที่มีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์
1. ประเภทของประกันภัย
   - ประกันชั้น 1: คุ้มครองครอบคลุมที่สุด (รถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม บุคคลภายนอก)
   - ประกันชั้น 2+: คุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1 แต่ไม่รวมความเสียหายจากการชนแบบไม่มีคู่กรณี
   - ประกันชั้น 3+: คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอกและอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี
   - ประกันชั้น 3: คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอก
   - ประกันภัยแบบเฉพาะเจาะจง (ไมโครอินชัวรันส์)

2. ยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์
   - รถยนต์ที่มีราคาสูงหรือมีค่าซ่อมบำรุงสูง เบี้ยประกันจะสูงตาม

3. อายุของรถยนต์
   - รถยนต์ใหม่มักมีเบี้ยประกันสูงกว่า เนื่องจากมูลค่ารถยังสูงอยู่

4. ประวัติการขับขี่
   - หากไม่มีประวัติการเคลม (No Claim Bonus) จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน

5. อายุและเพศของผู้ขับขี่
   - ผู้ขับขี่ที่อายุน้อยกว่าอาจมีเบี้ยประกันสูงกว่า เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า

6. พื้นที่ใช้งาน
   - การใช้รถในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น เมืองใหญ่ อาจทำให้เบี้ยสูงขึ้น

7. ทุนประกัน
   - ทุนประกันที่สูงขึ้นจะทำให้เบี้ยประกันเพิ่มขึ้น

วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์
1. เลือกประเภทประกันภัยที่เหมาะสมกับการใช้งาน
2. ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรม
3. ระบุชื่อผู้ขับขี่หลัก
4. เลือกซ่อมอู่แทนซ่อมห้าง
5. ใช้ส่วนลดจากประวัติการขับขี่ดี (No Claim Bonus)
6. เปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทประกันภัย

หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบี้ยประกันรถยนต์ สามารถเข้าดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.viriyah.com/motor-insurance/class-all/premium ! 😊