SMF Thailand.
Marketplace => ประกาศซื้อขายทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Cindy700 ที่ 14/05/25, 16:42:25
-
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/___1ebadfc534289d74d.jpg) (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)
พิมพ์นามบัตร Digital Offset ราคาคละแบบได้ เริ่มต้นขั้นต่ำ 100 ใบ 100 บาท
พิมพ์เพลินพริ้นท์ มีบริการ Template พิมพ์นามบัตรสวยๆ ไว้ให้เลือกมากกว่า 100 แบบ
และพิมพ์นามบัตรพรีเมียม จัดส่งทั่วประเทศ ทำนามบัตรด่วน พิมพ์นามบัตรสี
การพิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)นั้นแรกเริ่มถูกใช้สำหรับเพื่อการแนะนำตัวของตัวเองให้กับบุคคลภายนอก เพื่ออำนวยความสะดวกใน
การช่วยให้อีกข้างสามารถจำตัวเองเจริญขึ้น แล้วก็ทำให้อีกข้างทราบโปรไฟล์ของพวกเราโดยคร่าวๆได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ตำแหน่ง
ที่อยู่และก็เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ สำหรับในการพิมพ์นามบัตรแจกนั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากในอดีตกาลในยุคที่ยังไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
เพราะว่าถ้าหากปรารถนาเขียนเบอร์โทรศัพท์จำเป็นต้องใช้การเขียนลงสมุดแล้วต้องสอบถามรายละเอียดที่ได้รับมาจากบุคคลนั้น ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่
สบายและก็ทำให้ล่าช้าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดมีการสัมมนาหรือพบปะสนทนาผู้อื่นด้วยแล้ว การพิมพ์นามบัตรจึงนับเป็น
สิ่งจำเป็นอย่างเสียมิได้
ถึงแม้ในตอนนี้จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยในการแนะนำตัวเองและก็โปรไฟล์ได้มากมายหลายแนวทาง แม้กระนั้นหากว่านิยามของการ
พิมพ์นามบัตรไม่ใช่แค่เพียงแต่เป็น “Name Card” แต่เปลี่ยนเป็น “Business Card” ซึ่งสื่อความหมายโดยนัยมีบัตรที่ใช้
เพื่อการติดต่อธุรกิจหรือเรียกได้บัตรที่ใช้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการก็ได้ สำหรับการติดต่อธุรกิจกับคนอื่นนั้นการแจกนามบัตรนั้น
เป็นความต้องการมากในปัจจุบัน โดยยิ่งไปกว่านั้นค่าความนิยมของญี่ปุ่นนั้นนับว่าให้พกนามบัตรประจำตัวตลอดระยะเวลาและให้ความใส่ใจมาก
กว่ากระเป๋าใส่เงินอีกด้วย เพราะว่าแม้มีการพบเห็นบุคคลภายนอกจนมีการแนะนำตัวแล้วไม่มีนามบัตรถือว่าเสียมารยาท
และไม่ให้เกียรติบุคคลนั้น ด้วยเหตุดังกล่าวการพิมพ์นามบัตรก็เลยมีความสำคัญอย่างที่สุดไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะในเชิงธุรกิจแต่ว่ารวมถึงบุคคลทั่วไปด้วย
รูปแบบของนามบัตรนั้นจะแตกต่างออกไปตามเป้าหมายการใช้แรงงาน เช่น ใช้เสนอแนะเป็นการส่วนตัว หรือ แนะ
นำในทางธุรกิจ ฯลฯ โดยเนื้อหาข้อมูลสำหรับการพิมพ์นามบัตรจะแตกต่างกันออกไป โดยธรรมดาข้อมูลพื้นฐานที่ควรมีไม่ว่า
นามบัตรแบบไหนเป็น1.ชื่อ – นามสกุลของเจ้าของบัตร 2.เบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางติดต่อโดยจะเป็นแนวทางใดก็ได้อย่างใดอย่าง
หนึ่งก็ได้หรือหลายแบบก็ได้ตามแต่สะดวก ซึ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากกำหนดเบอร์โทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ บางทีก็อาจจะเพิ่มที่อยู่อีเมล
facebook LineID เพิ่มเติมอีกเป็นต้น แต่ว่าหากเป็นการ[url=https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset]พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)[/url]เพื่อธุรกิจก็จะต้องมีเพิ่มเติมในเรื่องชื่อบริษัท ตำแหน่ง
ที่รับผิดชอบ และก็อาจจะมีข้อมูลบริษัทอย่างคร่าวๆ รวมทั้งการใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ศัทพ์บางทีอาจจะจะต้องเป็นของบริษัทด้วยเพื่อความน่า
เชื่อใจฯลฯ
งานเอกสารนามบัตรนั้นจะมีลักษณะเป็นขนาดแผ่นเดียวโดยมีความแข็งพอสมควร ไม่ควรบางหรืออ่อนตัวจนเหลือเกิน ซึ่ง
ขนาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีต่างกันออกไปบ้างบางส่วนแม้กระนั้นไม่ควรแตกต่างจากขนาดมาตรฐานเท่าไรนัก นั่นเป็น 3.5 x 2.125 นิ้ว เนื่องจากขนาด
ของบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์มาเก็บนามบัตรนั้นจะมีขนาดที่กับขนาดมาตรฐานเป็นหลัก สำหรับกระดาษที่ใช้จะต้องมีความครึ้ม
260 เอ็งรมขึ้นไป โดยนิยมกระดาษอาร์ตการ์ดหรือกระดาษแฟนซี โดยการพิมพ์นามบัตรนั้นจะพิมพ์ด้านเดียวหรือสองด้านก็ได้
โดยตอนนี้นิยมพิมพ์สองด้านโดยจะชอบเจาะจงเนื้อหาเป็นภาษาไทยด้านหนึ่งและภาษาอังกฤษด้านหนึ่ง ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับในการ
ใช้ติดต่อธุรกิจที่อาจจะมีคนต่างชาติรวมอยู่ด้วย
การออกแบบนามบัตรให้เกิดความงดงามนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือสำหรับการทำธุรกิจ สำหรับ
ผู้ที่ไม่รู้ท่านหรือบริษัทท่านเป็นการส่วนตัวถ้าหากได้เห็นนามบัตรที่มองสง่าผ่าเผยก็จะทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทท่านต้องดูน่าไว้วางใจตามไป
ด้วย การตกแต่งเพิ่มอีกในกับนามบัตรจึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เป็นต้นว่า การเคลือบ UV เคลือบเงา เคลือบด้าน เคลือบ
Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มทองคำ และก็ฯลฯขึ้นกับความพึงพอใจของแต่ละท่านนั่นเอง
Tags : พิมพ์นามบัตร (https://www.pimplernprint.com/namecard-digitaloffset)